อากาศเดี๋ยวร้อน เดี๋ยวหนาว แบบนี้ คงหนีไม่พ้นอาการไข้หวัด ซึ่งเป็นโรคยอดฮิตในคนปกติไปเสียแล้ว

ซึ่งรู้ไหมครับว่า หวัดเกิดจากเชื้อไวรัส ซึ่งมีอยู่มากกว่า 200 ชนิด ทำให้คนที่เคยเป็นหวัดแล้วก็มีโอกาสจะกลับมาเป็นอีกแบบไม่รู้จบ ซึ่งจะผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันไปตามไวรัสที่ต่างชนิดกันทำให้เกิดการอักเสบของทางเดินหายใจส่วนต้น (จมูกและคอ)

เชื้อหวัดเป็นเชื้อที่มีอยู่ในน้ำมูก น้ำลาย และเสมหะของผู้ป่วย สามารถติดต่อกันได้โดยการหายใจสูดเอาฝอยละอองเสมหะที่ผู้ป่วยไอหรือจามรด ภายในระยะไม่เกิน 1 เมตร ซึ่งจัดว่าเป็นการแพร่กระจายทางละอองเสมหะที่มีขนาดใหญ่ (Droplet transmission) นอกจากนี้ เชื้อหวัดยังอาจติดต่อกันได้โดยการสัมผัส กล่าวคือ เชื้อหวัดอาจติดอยู่ที่มือของผู้ป่วย สิ่งของเครื่องใช้ต่าง ๆ (เช่น แก้วน้ำ จาน ชาม ผ้าเช็ดหน้า ผ้าเช็ดตัว โทรศัพท์ หนังสือ ราวบันได ปุ่มกดลิฟต์ ของเล่นต่าง ๆ เป็นต้น) หรือสิ่งแวดล้อม เมื่อคนปกติมาสัมผัสถูกมือของผู้ป่วย สิ่งของเครื่องใช้ หรือสิ่งแวดล้อมที่แปดเปื้อนเชื้อหวัด เชื้อหวัดก็จะติดมือของคน ๆ นั้นมา และเมื่อไหร่ที่คน ๆ นั้นใช้นิ้วมือขยี้ตาหรือแคะไชจมูก เชื้อก็จะเข้าสู่ร่างกายจนกลายเป็นไข้หวัดได้ (ยังไม่มีหลักฐานชี้ว่าอากาศที่ไหลเวียนอยู่ในเที่ยวบินพาณิชย์เป็นวิธีการแพร่เชื้อ อย่างไรก็ดี บุคคลที่นั่งใกล้ชิดก็ดูเหมือนจะมีความเสี่ยงสูงกว่า)

ระยะฟักตัวของโรค (ตั้งแต่ผู้ป่วยรับเชื้อเข้าไปจนกระทั่งแสดงอาการ) : ประมาณ 1-3 วัน โดยเฉลี่ยประมาณ 10-12 ชั่วโมงนับตั้งแต่ได้รับเชื้อ และมักมีอาการรุนแรงที่สุดในช่วง 2-3 วันหลังเริ่มมีอาการ

อาการของไข้หวัด

โดยทั่วไปโรคนี้มักมีอาการไม่รุนแรง อาการที่พบได้ทั่วไป คือ เป็นหวัด คัดจมูก จาม มีน้ำมูกใสไหล คอแห้ง หรือเจ็บคอเล็กน้อย ไอแห้ง ๆ หรือไอมีเสมหะเล็กน้อย ลักษณะสีขาว อาจมีอาการปวดหนักศีรษะเล็กน้อย อ่อนเพลีย (แต่ไม่มาก) ปวดกล้ามเนื้อ มีแสบตา เสียงแหบ และอาจมีไข้ได้ แต่เป็นไข้ไม่สูง (ไม่เกิน 38 องศาเซลเซียส) โดยจะมีไข้เป็นพัก ๆ ครั่นเนื้อครั่นตัว ในบางครั้งอาจทำให้รู้สึกเจ็บบริเวณลิ้นปี่เวลาไอ ในเด็กเล็กอาจมีอาการอาเจียนเวลาไอ ส่วนในทารกอาจมีอาการอาเจียนหรือท้องเสียร่วมด้วย

ส่วนวิธีการรักษา การทำตัวให้อบอุ่น การดื่มน้ำร้อน และ พักผ่อน เป็นวิธีที่ทําให้ร่างกายฟื้นตัวได้เร็วที่สุด เพราะหวัดนั้นเกิดจากไวรัส จึงไม่มียาที่ใช้รักษาโดยเฉพาะ เพียงแต่ให้การรักษาไปตามอาการเท่านั้น ดังนั้นโรคนี้ไม่จำเป็นต้องใช้ยาปฏิชีวนะ ยกเว้นในรายที่สงสัยว่าจะมีภาวะแทรกซ้อนเกิดขึ้นเท่านั้น

แต่หากมีอาการเจ็บคอ น้ำมูกไหล จาม ปวดหัว ครั่นเนื้อครั่นตัวจนรําคาญ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อหาวิธีที่เหมาะสมในการบรรเทาอาการนั้น

#แอมเซลดูแลคุณทั้งสุขภาพและความงาม

-------------------------------------------------------------------

แอมเซล เนเจอร์ ซี

• ป้องกันโรคลักปิดลักเปิด

• ต้านอนุมูลอิสระ และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ช่วยให้ผิวสดใส

• ลดอาการภูมิแพ้ และ ลดระยะเวลาและความรุนแรงของโรคหวัด

• ป้องกันนิ่วในไต และการติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ

• ป้องกันการอักเสบ และ ป้องกันสิวอักเสบ

-------------------------------------------------------------------